วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตะลุยดินแดน...ลาว

ดินแดน...ลาว
ข้อมูลทั่วไป:
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นประเทศไทยที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล โดยมีพรมแดนติดต่อกับจีนและพม่าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศตะวันออกติดกับเวียดนาม ทิศใต้ติดกับกัมพูชา และติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก
ลักษณะถูมิประเทศ:

ประเทศลาวเป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่บนใจกลางของคาบสมุทรอินโดจีน ระหว่างละติจูดที่ 14 - 23 องศาเหนือ ลองติจูดที่ 100 - 108 องศาตะวันออก มีพื้นที่โดยรวมประมาณ 236,800 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็นภาคพื้นดิน 230,800 ตารางกิโลเมตร ภาคพื้นน้ำ 6,000 km² โดยลาวเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล เนื่องด้วยตลอดแนวชายแดนของประเทศลาว ซึ่งมีความยาวรวม 5,083 กิโลเมตร ล้อมรอบด้วยชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน 5 ประเทศ ดังนี้ ประเทศจีนทางด้านทิศเหนือ (1 กิโลเมตร)ประเทศไทยทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก (1,754 กิโลเมตร) ประเทศกัมพูชาทางด้านทิศใต้ (541 กิโลเมตร)ประเทศเวียดนามทางด้านทิศตะวันออก (2,130 กิโลเมตร)ประเทศพม่าทางด้านทิศตะวันตก (235 กิโลเมตร)
ความยาวพื้นที่ประเทศลาวตั้งแต่เหนือจรดใต้ยาวประมาณ 1,700 กว่ากิโลเมตร ส่วนที่กว้างที่สุดกว้าง 500 กิโลเมตร และที่แคบที่สุด 140 กิโลเมตร เนื้อที่ทั้งหมด 236,800 ตารางกิโลเมตร
ภูมิประเทศของลาวอาจแบบได้เป็น 3 เขต คือเขตภูเขาสูง เป็นพื้นที่ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ย 1,500 เมตรขึ้นไป พื้นที่นี้อยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศเขตที่ราบสูง คือพื้นที่ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำทะเลเฉลี่ย 1,000 เมตร ปรากฏตั้งแต่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของที่ราบสูงเมืองพวนไปจนถึงชายแดนกัมพูชา เขตที่ราบสูงนี้มีที่ราบสูงขนาดใหญ่อยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ราบสูงเมืองพวน (แขวงเชียงขวาง), ที่ราบสูงนากาย (แขวงคำม่วน) และที่ราบสูงบริเวณ (ภาคใต้)เขตที่ราบลุ่ม เป็นเขตที่ราบตามแนวฝั่งแม่น้ำโขงและแม่น้ำต่างๆ เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในเขตพื้นที่ทั้ง 3 เขต นับเป็นพื้นที่อู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของประเทศ แนวที่ราบลุ่มเหล่านี้เริ่มปรากฏตั้งแต่บริเวณตอนใต้ของแม่น้ำงึม เรียกว่า ที่ราบลุ่มเวียงจันทน์ ผ่านที่ราบลุ่มสะหวันนะเขด ซึ่งอยู่ตอนใต้เซบั้งไฟและเซบั้งเหียง และที่ราบจำปาสักทางภาคใต้ของลาว ซึ่งปรากฏตามแนวแม่น้ำโขงเรื่อยไปจนจดชายแดนประเทศกัมพูชา
ทั้งนี้ เมื่อนำเอาพื้นที่ของเขตภูเขาสูงและเขตที่ราบสูงมารวมกันแล้ว จะมากถึง 3 ใน 4 ของพื้นที่ประเทศลาวทั้งหมด โดยจุดที่สูงที่สุดของประเทศลาวอยู่ที่ภูเบี้ย ในแขวงเชียงขวาง วัดความสูงได้ 2,817 เมตร (9,242 ฟุต)



        ภาษาที่ใช้:
       ลาวมีภาษาประจำชาติคือ ภาษาลาว ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับภาษาไทยในแถวๆภาคอีสานของบ้านเรา นอกจากนี้ ชาวลาวบางส่วนยังสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้ดี สำหรับชาวลาวที่อาศัยทางตอนเหนือของประเทศ มีสำเนียงการพูด และ ความหมายของคำบางคำคล้ายคลึงกับภาษาพื้นเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และเลย ทางตอนเหนือของประเทศไทยอีกด้วย เพราะฉะนั้น ท่านสามารถอุ่นใจได้ว่า การเดินทางไปเที่ยวประเทศลาวนั้น ไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องของภาษา
         อาหารท้องถิ่น:
        สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลยเมื่อได้เดินทางไปเยือน ประเทศลาวคือ ไปชิมอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของเขากันค่ะ เช่น "เอาะหลาม" มีลักษณะคล้ายแกงค่ะ "หน่อไม้อั่ว" หรือ หน่อไม้ยัดไส้หมูชุบแป้งทอด ยิ่งทานกับข้าวเหนียว... อร่อยเหาะ "ฝานย่าง" (กวางหรือเก้งย่าง) มักทานคู่กับ ไคแผ่น (สาหร่ายน้ำจืดทอด) และ แจ่วบอง (มีรสชาติคล้ายกับน้ำพริกเผาบ้านเรา) "ส้มตำ" เป็นต้น ท่านสามารถลิ้มลองอาหารลาวรสแซ่บเหล่านี้ ได้ที่ภัตตาคาร ร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ตามโรงแรมในลาว หรือในตัวเมืองท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่


         การเดินทาง:
         จากประเทศไทย ท่านสามารถเดินทางเข้าไปยังประเทศลาวได้ที่ ด่านพรมแดนของ 5 จังหวัด ดังนี้
1. จังหวัดเชียงราย (เชียงของ - ห้วยทราย)
2. จังหวัดหนองคาย (สะพานมิตรภาพไทย-ลาว - นครหลวงเวียงจันทน์)
3. จังหวัดนครพนม - ท่าแขก
4. จังหวัดมุกดาหาร - สะหวันนะเขต
5. จังหวัดอุบลราชธานี (ด่านช่องเม็ก - วังเต่า)
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังสามารถนำรถยนต์ส่วนตัวสัญจรผ่านเข้าไปในเขตประเทศลาวได้อีกด้วยค่ะ
      สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศลาว นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางได้หลายทางค่ะ ตั้งแต่ การเดินทางทางบก มีสถานีรถโดยสารซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่นครเวียงจันทน์ อยู่ใกล้ตลาดเช้า สายเหนืออยู่ที่ ถนนเต้สอง และสายใต้ ตั้งอยู่ที่หลัก 6 ถนนหมายเลข 13 ใต้ การเดินทางทางเรือ ท่านสามารถใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางสัญจร โดยมีเรือโดยสารไว้คอยให้บริการตามหัวเมืองสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่เหนือสุดที่ห้วยทราย หลวงพระบาง เวียงจันทน์ สะหวันนะเขต ปากเซ ไปจนถึงจำปาสักเลยล่ะค่ะ ส่วนทางอากาศ ลาวก็มีเที่ยวบินภายในประเทศไว้คอยให้บริการเพื่อไปยังหัวเมืองใหญ่ๆอีกด้ว
        สภาพอากาศ:
       ลักษณะทางภูมิอากาศของประเทศลาวแบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน ฤดูฝน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จนถึงเดือนตุลาคม และ ฤดูหนาว
         แหล่งช้อปปิ้ง:
สำหรับแหล่งช้อปปิ้งในลาวที่เด่นๆ มีดังนี้ค่ะ ตลาดเช้า เปิดขายตั้งแต่ 07.00 น. - 16.00 น. ตลาดเช้านี้มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าพื้นเมือง และสินค้าจากต่างประเทศ อาทิเช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้าซิ่น เครื่องเงิน ไม้แกะสลัก เครื่องจักสาน รวมถึงงานฝีมือต่าง ๆอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ยังมี ตลาดจีน (ตลาดแลง หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ตลาดหนอง) เป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าจากประเทศจีนเป็นหลัก เช่น กระเป๋าแบรนด์เนม เครื่องใช้ไฟฟ้า ของที่ระลึก เสื้อผ้าสำเร็จรูป รวมไปถึงอาหารและเครื่องเทศที่นำเข้าจากประเทศจีนโดยตรง และ ตลาดขัวดิน ตลาดนี้เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของสดที่ใหญ่ที่สุดในนครเวียงจันทน

สถานที่ท่องเที่ยว;



วัดเชียงทอง
  1.    ถือเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมล้านช้าง ณ เมืองพระบาง มีหลังคาซ้อน 3 ชั้น รูปทรงหลังคาผายกว้างออกเรียกว่าหลังคาปีกนก ทั้งภายในและภายนอกสิม(อุโบสถ)ล้วนมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นลายรดน้ำลงรักปิดทองเป็นเรื่องราวนิทานพื้นบ้านและเรื่องเกี่ยวกับศาสนา และหากเดินมาทางด้านหลังสิมก็จะเห็นลวดลายประดับกระจกสีเป็นรูปต้นไม้ใหญ่ มีนกและสัตว์นานาชนิด ซึ่งต้นไม้นั้นก็คือต้นทอง หรือต้นงิ้ว ที่พระเจ้าศรีสว่างวัฒนาได้โปรดฯ ให้ช่างทำไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง ชื่อเชียงทอง หมายความถึง ป่าต้นทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ดั้งเดิมบริเวณนี้นั่นเอง 



ถ้ำติ่ง 
   เป็นถ้ำน้อย ตั้งอยู่ปากอู ห่างจากหลวงพระบางประมาณ 40 กิโลเมตร ซึ่งมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่มากมายมหาศาล ซึ่งไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าเป็นเวลายาวนานเท่าใดที่ประชาชนได้นำเอาพระพุทธรูปมาถวายเป็นที่เคารพบูชาไว้ที่ถ้ำกลางแม่น้ำโขง ซึ่งพระพุทธรูปอยู่ที่ถ้ำดังกล่าว ยิ่งนับวันก็ยิ่งมากขึ้น เนื่องจากทุกๆ ปี เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ลาว ชาวหลวงประบางจะพากันล่องเรือมาทำบุญกันอยู่ที่นี่ ในการมาทำบุญกันแต่ละครั้งจะนำเอาพระพุทธรูปที่หล่อด้วยโลหะ และทำด้วยไม้แกะสลักมาถวาย
น้ำตกตาดกวางสี 
    ตั้งอยู่ห่างจากหลวงพระบางลงไปทางใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร เหมาะสำหรับการพักผ่อน เพราะมีอากาศบริสุทธิ์และมีธรรมชาติอันสวยงามเขียวชอุ่มไปทั่ว เป็นที่น่าพิศวงยิ่งนักตามเส้นทางท่านจะได้พบกับวิถีชีวิตและความเป็นเอกลักษณ์อันแท้จริงของบรรดาชนกลุ่มน้อยในลาวโดยเฉพาะหมู่บ้านลาวเทิง เช่น หมู่บ้านท่าแป้น, บ้านตาดและบ้านอู้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวหลวงพระบางดั้งเดิมซึ่งยังคงรักษาการดำรงชีวิตแบบลาวๆ เกือบหมดทุกอย่างและท่านจะได้พบกับการดำข้าวด้วยพลังงานของกระแสน้ำ 

 ตลาดมืด ถนนข้าวเหนียว 
    ยามค่ำคืน บริเวณถนนศรีสว่างวงศ์จะถูกปิด แล้วถูกแปรสภาพกลายเป็น ตลาดมืด ไม่ใช่ขายของผิดกฏหมาย แต่ขายของพื้นเมือง มีหลากหลายให้เราเลือกซื้อ ทั้งกระเป๋า ผ้าพันคอ ปลอกหมอน จนถึงผ้าปูที่นอน สร้อย แหวน กำไล หรือ ธูปหอม ฯลฯ ....น่าซื้อไปเสียหมด ส่วนราคาก็ต้องต่อรองเอาเอง แนะนำว่า ควรสอบถามราคา หลายๆร้าน บางร้านอยู่ไกลหน่อย ราคาก็ถูกลง ถนนนี้ มีคำพูดเล่นๆ ว่า เมืองไทยมี ถนนข้าวสาร ถนนนี้ เป็น พี่น้องกัน ชื่อ ถนนข้าวเหนียว   

5 ความคิดเห็น: